บทที่ 11 ของขวัญวันเกิดล่วงหน้า

เพ็ญนีติ์คร้านจะใส่ใจคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนอีกต่อไป

เธอกำลังขับร้องงิ้วคุนฉวี่เรื่อง "ศาลาแดง" ผมเกล้าขึ้นอย่างลวกๆ ปักปิ่นหยกที่สั่นไหวเบาๆ ตามจังหวะการเคลื่อนไหว ราวกับกำลังให้จังหวะดนตรี

ชุดงิ้วสีฟ้าครามบนเรือนร่างนั้นช่างงดงาม ชายแขนเสื้อยาวพลิ้วไหวประดุจก้อนเมฆ ล่องลอยไปมาตามท่วงท่าร่ายรำของเธอ

ธงชัยยืนชมอยู่ข้างๆ อย่างเพลิดเพลิน พอเพ็ญนีติ์ร้องจบ เขาก็ปรบมือรัวๆ แววตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและแฝงความเอ็นดูพลางพูดว่า "เพ็ญนีติ์ เธอร้องได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ดูการแต่งกายและน้ำเสียงของเธอสิ ถ้าเป็นสมัยโบราณนะ แค่นี้ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสนมเอกได้สบายๆ เลย"

พอได้ยินดังนั้น เพ็ญนีติ์ก็หน้ามุ่ยทันที ถลึงตาใส่แล้วพูดว่า "พี่คะ หนูไม่เอาหรอกตำแหน่งพระสนมเนี่ย เป็นพระสนมก็คือเป็นเมียน้อยเขาไม่ใช่เหรอ หนูไม่เป็นหรอก ถ้าจะเป็น หนูจะเป็นนางพญาที่มีความมั่นใจ เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้แบบนั้นต่างหาก"

ธงชัยยิ้มอย่างจนใจแล้วพูดว่า "เรานี่นะ ความคิดความอ่านไม่เหมือนใครจริงๆ เอ้อ พูดถึงเรื่องนี้ คุณน้าทั้งสามที่บ้านน่ะ เธอก็รู้นี่นา..."

พอได้ยินเรื่องนี้ สีหน้าของเพ็ญนีติ์ก็ดูเจื่อนไป แววตาฉายแววสับสนซับซ้อน

ธงชัยพูดต่อว่า "เพ็ญนีติ์ อย่าคิดมากเลยนะ สามปีมานี้พวกคุณน้าเป็นห่วงเธอจริงๆ นะ คอยแอบถามพี่เรื่องเธอตลอด ว่าเป็นอยู่ยังไงบ้าง ลำบากไหม"

เพ็ญนีติ์มองธงชัยอย่างสงสัยแล้วถามว่า "พี่คะ พี่พูดเรื่องพวกนี้กับหนู ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่?"

ธงชัยถอนหายใจเบาๆ "เพ็ญนีติ์ ตอนนั้นที่เธอหนีออกจากบ้านไปเป็นแพทย์ไร้พรมแดนโดยไม่บอกไม่กล่าว พี่รู้นะว่าจริงๆ แล้วเธอกำลังประชดคุณพ่ออยู่"

"พี่รู้ว่าพ่ออาจจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีในบางเรื่อง แต่สายเลือดมันตัดกันไม่ขาดหรอกนะ เราเลือกเกิดไม่ได้ และจริงๆ แล้วพ่อรักเธอมากนะ"

"ส่วนคุณน้าทั้งสาม พวกท่านเป็นคนจิตใจดี ดูแลบ้านช่องให้เรียบร้อยมาตลอดหลายปี ไม่มีความคิดร้ายกาจอะไรเลย พี่เอาเกียรติเป็นประกันเลยว่าพวกท่านหวังดีกับครอบครัวเราจริงๆ"

จริงๆ แล้วในใจของเพ็ญนีติ์ยอมรับคุณน้าทั้งสามมานานแล้ว เพียงแต่ธงชัยไม่รู้เท่านั้นเอง

เธอนึกในใจเงียบๆ ว่า 'พี่คะ จริงๆ แล้วหนูเลิกโทษพวกท่านนานแล้ว แค่ยังหาโอกาสบอกพี่ไม่ได้ก็เท่านั้น'

คณเดชนั่งอยู่ในห้อง ทาวัตเพิ่งจะทำแผลให้เขาเสร็จ

ในเวลานี้ เขาจมดิ่งอยู่ในห้วงความทรงจำเพียงลำพัง ภาพของภาวินี เพื่อนสมัยเด็กผุดขึ้นมาในหัว

นึกย้อนไปในอดีต ภาวินีคอยอยู่เคียงข้างเขาไม่ห่างในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด ความผูกพันนั้นกลายเป็นความยึดติดในใจเขามาเนิ่นนาน

แต่ทว่า ภาวินีในตอนนี้กลับทำให้เขาปวดหัวอยู่บ้าง

ในความทรงจำของเขา ภาวินีเคยอ่อนหวานน่ารักราวกับดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่เบ่งบานอย่างเงียบสงบ

แต่ตอนนี้ พฤติกรรมของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้คณเดชรู้สึกระอาใจอยู่บ่อยครั้ง

คณเดชส่ายหน้า พยายามสลัดความคิดเหล่านี้ทิ้งไป แล้วเริ่มลงมือทำงาน

สายตาของเขาเหลือบไปเห็นสูทตัวหนึ่งแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าโดยบังเอิญ เมื่อหยิบมาสวมดู ก็พบว่ามันพอดีตัวราวกับสั่งตัดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

แถมการตัดเย็บยังประณีตบรรจง ทุกฝีเข็มเต็มไปด้วยความใส่ใจ

เขาอดคิดในใจไม่ได้ว่า รดา คนที่ส่งเสื้อตัวนี้มา รสนิยมดีไม่เบาเลยทีเดียว

จังหวะนั้นเอง ป้าเล็กก็ยกนมอุ่นๆ เข้ามาในห้อง

เมื่อเห็นคณเดชสวมสูทตัวนั้น นางก็ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณชายคะ สูทตัวนี้คุณผู้หญิงตั้งใจทำมากเลยนะคะ เธอเตรียมการล่วงหน้าเป็นเดือน เพื่อมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณชายค่ะ"

คณเดชได้ฟังก็แปลกใจเล็กน้อย

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็กลับมาทำสีหน้าเย็นชาอย่างรวดเร็ว

เขาพูดกับป้าเล็กว่า "ป้าเล็ก เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผมกับเขาหย่ากันแล้ว ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องของเขาอีก"

ป้าเล็กร้อนรน รีบพูดขึ้นว่า "คุณชายคะ คุณชายกับคุณผู้หญิงมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าคะ?"

คณเดชขมวดคิ้ว พูดอย่างหมดความอดทนว่า "ป้าเล็ก เลิกพูดเถอะ ถ้าเขาจริงใจกับผมจริงๆ เราจะมาถึงจุดที่ต้องหย่ากันไหม? ผมว่านะ สิ่งที่เขาทำเมื่อก่อนก็แค่เสแสร้งแกล้งทำ ไม่ได้ชอบผมจริงๆ หรอก"

ป้าเล็กยังอยากจะอธิบายต่อ นางพูดด้วยความร้อนใจว่า "คุณชายคะ คุณชายเข้าใจคุณผู้หญิงผิดจริงๆ นะคะ ที่ผ่านมาเธอทำให้คุณตั้งมากมาย มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่จริงใจคะ?"

แต่คณเดชกลับส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ขึ้นเสียงดังว่า "ป้าเล็ก หยุดพูดได้แล้ว ผมรู้ดี การกระทำของเขาเมื่อก่อนต้องมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงแน่ๆ ผมไม่อยากฟังเรื่องของเขาอีกแล้ว"

ป้าเล็กถอนหายใจอย่างจนปัญญา นางรู้ว่าตอนนี้คณเดชดื้อรั้นมาก พูดอะไรไปก็ไม่ฟัง

แต่ในใจนางรู้สึกว่าการที่คณเดชทำแบบนี้กับรดามันไม่ยุติธรรมเลย จึงอดบ่นพึมพำเบาๆ ไม่ได้ว่า "คุณชายคะ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป วันข้างหน้าคุณชายต้องเสียใจที่พลาดจากคุณผู้หญิงไปแน่ๆ ค่ะ"

คณเดชได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหงุดหงิด เขาพูดกับป้าเล็กด้วยความโมโหว่า "ป้าเล็ก ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ อย่าเอ่ยถึงชื่อเขาให้ผมได้ยินอีก ตอนนี้ผมสนใจแค่เรื่องงานกับชีวิตของผม เขาเป็นแค่อดีตไปแล้ว"

ป้าเล็กเห็นคณเดชโกรธจริงจัง จึงจำต้องหุบปาก นางวางแก้วนมอุ่นไว้บนโต๊ะเงียบๆ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

คณเดชมองตามแผ่นหลังของป้าเล็กที่เดินจากไป ในใจกลับรู้สึกสับสนวุ่นวาย เขาก้มมองสูทที่สวมอยู่ นึกถึงรดา แล้วก็อดแค่นเสียงในลำคอไม่ได้

เขามั่นใจว่าตัวเองมองคนไม่ผิด รดาต้องมีจุดประสงค์ร้ายแอบแฝงแน่ๆ

แต่ทว่า ในส่วนลึกของหัวใจ กลับมีเสียงของรดาดังขึ้นมาถามว่า หรือเขาจะเข้าใจเธอผิดไปจริงๆ?

แต่ความคิดนี้ก็แวบเข้ามาเพียงชั่ววูบ ไม่นานเขาก็กลับมายืนกรานในความคิดเดิมของตัวเองอีกครั้ง

ชีวิตหลังหย่าของเพ็ญนีติ์นั้นช่างแสนสุขและอิสระเสรี

เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ตระกูลศิริบูรณ์ ต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาทำอาหารเช้าให้คนในบ้านทาน แถมยังต้องคอยดูสีหน้าคนอื่นตลอดเวลา

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอเปรียบเสมือนนกน้อยที่หลุดออกจากกรงขัง อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ

นี่ไงล่ะ ตอนนี้เธอสร้างนิสัยรักการออกกำลังกายตอนเช้าได้แล้ว

ทุกเช้า เธอจะออกไปพายแพดเดิลบอร์ด

บนผิวน้ำที่ระยิบระยับ เธอออกแรงจ้วงพายอย่างเต็มที่ ทุกจังหวะเต็มไปด้วยพลัง ราวกับได้สลัดความน้อยเนื้อต่ำใจและความกดดันที่เคยได้รับจากตระกูลศิริบูรณ์ทิ้งไปพร้อมกับหยาดเหงื่อ

หลังออกกำลังกายเสร็จ เธอรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนได้ชาร์จแบตจนเต็ม

และในตอนนั้นเอง ถิรก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป